เมื่อวันที่ 9 มีนาคมพุทธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในการปราบพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลพุทธศักราช 2562

ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลขึ้น

โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งเป็นหน่วยราชการในรูปแบบเฉพาะมีลักษณะเป็นการบูรณาการการปฏิบัติงานจาก 7 หน่วยงานหลัก คือ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

โดยปัจจุบันศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. มีที่ตั้งหน่วยต่าง ๆ ประกอบด้วย

1. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลส่วนกลาง ตั้งอยู่ที่บริเวณพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร

2. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1  ตั้งอยู่ที่บริเวณ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

3. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2  ตั้งอยู่ที่บริเวณ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา

4. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3  ตั้งอยู่ที่บริเวณ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

รวมทั้งมีศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อทางทะเลอีกจำนวน 23 จังหวัด

ศรชล. เป็นหน่วยงานหลักและเป็นกลไกสำคัญของรัฐบาล รับผิดชอบการดำเนินการที่มีเอกภาพสามารถบูรณาการการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้มีความมั่นคงและยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรในเขตทางทะเลที่มีลักษณะที่หลากหลายและผู้มีอำนาจอธิปไตย รวมทั้งสิทธิหน้าที่อื่นตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีพันธกรณีจะต้องปฏิบัติตามเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีอยู่อย่างมากมาย ในด้านความมั่นคงด้านเศรษฐกิจด้านสังคมด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ยังทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อมและด้านอื่น ๆที่ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล