บริการประชาชน

เมนู

ศรชล.จว.สตูล บูรณาการกำลังตรวจสอบเรือต้องสงสัยบนเกาะยาว ต.ปูยู อ.เมืองสตูล จว.สตูล

🔶 ศรชล.จว.สตูล บูรณาการกำลังตรวจสอบเรือต้องสงสัยบนเกาะยาว ต.ปูยู อ.เมืองสตูล จว.สตูล
🔶 เนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๒ พ.ค.๖๗ ศรชล.จว.สตูล ได้รับแจ้งจาก ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. (ตำรวจน้ำสตูล) ว่าในวันที่ ๒๒ พ.ค.๖๗ เวลา ๑๓๓๐ ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเรือเป้าหมาย ตามยุทธการฟ้าสางอันดามัน พื้นที่ หมู่ที่ ๑ ต.ปูยู (บ้านเกาะยาว) อ.เมืองสตูล จว.สตูลผลการปฏิบัติหลังจากตรวจสอบพื้นที่แล้วพบเรือต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการขอตรวจสอบกับชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง โดยชาวบ้านแจ้งว่า เจ้าของเรือมีชื่อ นาย ปาเต๊ะ ยางะ ซึ่งอยู่ ต.ตำมะลัง และไม่สามารถติดต่อเจ้าของ เรือได้ อนึ่งเนื่องจากเรือลำดังกล่าวติดแห้ง ระดับน้ำทะเลลดลงมากไม่สามารถลากจูงกลับมาได้ที่ ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. ได้ จึงได้กลับมาวางแผนการปฏิบัติต่อไป และได้ประสานร้องขอกำลังจาก ศรชล.จว.สต. ช่วยเหลือในการปฏิบัติ โดย น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม ร.น. รอง ผอ.ศรชล.จว.สตูล ศรชล.ภาค ๓/ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค ๓ ได้สั่งการให้ ร.ท.ชาติชาย รังวารี ร.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ นก.พตต.ศรชล. ภาค ๓ จัดเรือ ศรชล.๒๙๐๖ พร้อมเจ้าหน้าที่ ชปพ.ฯ เข้ามาช่วยเหลือในการเข้าตรวจสอบรอบที่ ๒ เมื่อเวลา ๑๙๓๐ ร.ต.ท.ศุภชัย นุ่งอาหลี รอง สว.(ป.ทางน้ำ) ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. พร้อมเจ้าหน้าที่ ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. จำนวน ๖ นาย และ จนท.ศรชล.จว.สตูล จำนวน ๗ นาย นำเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ ๓๕๗ และ เรือ ศรชล.๒๙๐๖ ได้ทำการเข้าตรวจเรือลำดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากรอระดับน้ำทะเลขึ้นให้เรือเจ้าหน้าที่สามารถนำเรือเข้าเทียบท่าเรือบ้านเกาะยาวได้ และหากจำเป็นต้องนำเรือต้องสงสัยกลับเข้ามาตรวจสอบโดยละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถนำเรือออกได้ แต่ก่อนที่เรือเจ้าหน้าที่จะนำเรือเข้าเทียบปรากฎมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้ทำการขัดขวางไม่ให้เรือเจ้าหน้าที่เข้าใกล้เรือต้องสงสัยลำดังกล่าว และมีการปาก้อนหินใส่เรือเจ้าหน้าที่ทั้ง ๒ ลำ เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปยังเรือต้องสงสัยแต่กลับถูกกลุ่มคนปาก้อนหินใส่อีกจำนวนมาก และมีการวางอวนล้อมท่าเทียบเรือเพื่อไม่ให้เรือเจ้าหน้าที่เข้ามาเทียบเรือได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยเรือออกมาเฝ้าสังเกตุการณ์บริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันการย้ายเรือต้องสงสัยหนีออกจากพื้นที่ จนกระทั่งถึงเวลา ๒๑๓๐ โดยประมาณ เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นพฤติการณ์ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เรือต้องสงสัยลำดังกล่าว ทำการถอดเครื่องยนต์และอุปกรณ์ของเรือจนเหลือแต่ตัวเรือเปล่า เวลาประมาณ ๐๖๑๐ ของวันที่ ๒๓ พ.ค.๖๗ กลุ่มคนไม่ทราบชื่อได้ทำการเผาทำลายเรือเป้าหมาย เพลิงลุกไหม้เสียหายไปประมาณ ๔๐ % มีฝนตกลงมาทำให้ไฟดับลงเองเวลาประมาณ ๐๘๐๐ ไม่มีบ้านเรือนหรือทรัพย์สินอื่นเสียหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่กลางทะเลด้านนอกท่าเทียบเรือเกาะยาวต่อไป
🔶 เมื่อวันที่ ๒๓ พ.ค.๖๗ เวลา ๐๙๐๐ ศรชล.จว.สตูล โดย น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม ร.น. รองผู้อำนวยการ ศรชล.จว.สตูล/ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค ๓ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ศคท.จว.สตูล ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล ตชด.๔๓๖ และฝ่ายปกครองจังหวัดสตูล ประชุมหารือการตรวจสอบข้อเท็จและวางแผนการปฏิบัติในการเข้าตรวจสอบเรือต้องสงสัยลำดังกล่าว และมอบหมายให้ฝ่ายปกครองจังหวัดสตูล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ ๑ เจรจากับกลุ่มขัดขวางเจ้าหน้าที่
🔶 ในวันที่ ๒๔ พ.ค.๖๗ เวลา ๐๙๓๐ - ๑๒๐๐ ศรชล.ภาค ๓ โดย ศรชล.จว.สตูล./ศคท.จว.สตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้อำนวยการ ศรชล.จว.สตูล/ผวจ.สตูล มอบหมายให้ น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม ร.น. รองผู้อำนวยการ ศรชล.จว.สตูล/ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค ๓ บูรณาการกำลังจาก นก.พตต.ศรชล.ภาค ๓ ตำรวจน้ำสตูล กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสตูล สภ.เมืองสตูล ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล ร.๕ พัน.๒ ตชด.๔๓๖ และฝ่ายปกครองจังหวัดสตูล โดยนำเรือตรวจการณ์ ศรชล.๒๙๐๖ เรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ ๕๒๑ และเรือตรวจการณ์ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน ๔๘ นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบเรือต้องสงสัยที่ถูกเผาลำดังกล่าว โดยนำเรือเข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือบ้านเกาะยาว โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
๑. เข้าทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และทำการเผาเรือ และหาข้อมูลเพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน
๒. แสดงให้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันสกัดกั้นและติดตามการกระทำผิดกฎหมาย
๓. เป็นการแสดงกำลังให้ชาวบ้านมีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และให้ผู้กระทำผิดเกรงกลัวต่อ การกระทำผิด
๔. เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่
ตรวจสอบพบเรือต้องสงสัยเป็นเรือหางยาว สีฟ้าคาดขาว ทำด้วยไฟเบอร์กล๊าส เครื่องยนต์ติดท้าย ๒ เครื่อง มีร่องรอยถูกไฟไหม้ท้ายเรือ ไม่พบเจ้าของเรือหรือผู้ดูแล จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ทราบว่า เรือลำดังกล่าวไม่มีทะเบียนเรือ ซึ่งเจ้าของเรือเป็นชาวมาเลเซียมีภรรยาและบ้านอาศัยอยู่ที่เกาะยาว ต.ปูยู อ.เมืองสตูล จว.สตูล แต่ตอนเจ้าหน้าที่ไปถึงไม่พบเจ้าของบ้านและไม่มีผู้อยู่อาศัย ซึ่งคาดว่ามีการใช้เรือในการกระทำผิดกฎหมาย จึงได้แนะนำให้ผู้ใหญ่บ้านไปทำการแจ้งความกับ สภ.เมืองสตูล เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาข้อเท็จจริงกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
🔶 เหตุด่วน เหตุร้าย ภัยทางทะเล ต้องการความช่วยเหลือทางทะเล
โทร. 1465 แจ้ง ศปก.ศรชล.ภาค 3 หรือ โทร. 1696 แจ้ง ศปก.ทรภ.3

Our Mission

ศรชล.ภาค 3

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3

Scan Line ID

qr code thaimecc3

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้งานการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล